ห้องกลอน

กลอนงานการพัทธสีมา ประชุมสมัชชาสงฆ์ไทย ที่วัดวชิรธรรมปทีป นิวยอร์ค
วันที่ ๒๔ ถึง ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๓


 โดย...T.Dhammaton..




ศุภฤกษ์ เบิกท้องฟ้า มหาสมัย
เหล่าคนไทย ในอเมริกา พาสุขสันต์
เพราะวันนี้ มีงาน ที่สำคุญ
ตรงกับวัน การทำบุญ อุ่นฤทัย

ด้วยวันที่ ยี่สิบสี่ ถึงยี่สิบเจ็ด
วันเก็บเพชร แวววาม งามสดใส
มิถุนาฯ ห้าสาม ยามวิไล
เหล่าคนไทย ในอเมริกา หน้าชื่นบาน

วัดวชิร – ธรรมะ -ปทีป
ถึงไกลริบ ก็เหมือนใกล้ ใจประสาน
มาร่วมแรง ร่วมใจ ได้จัดงาน
รวมเอาด้าน งานสามส่วน ที่ควรชม

หนึ่งประชุม คณะสงฆ์ สมัชชาฯ
มีพระมา ประชุมร่วม ส่วนผสม
สองจัดงาน พัทธสีมา น่าชื่นชม
ที่ระดม ศรัทธาสร้าง เส้นทางบุญ

สามจัดงาน วันเกิด ฤกษ์มงคล
ทั่วไทยชน คนอเมริกา มาอุดหนุน
ถวายแด่ “พระเทพ – กิตติโสภณ”
ได้มายล บารมี ที่บำเพ็ญ

คณะสงฆ์ วัดวชิระฯ คณะกรรมการ
ได้เตรียมงาม อันเกริกไกร ให้ได้เห็น
จัดปฏิบัติ กรรมฐาน งานบำเพ็ญ
เป็นจุดเด่น เสริมมงคล วิมลใจ

ได้นิมนต์ พระทั่วโลก ปาฐกร่วม
เป็นที่รวม ประชุมพระ สามัญสมัย
โยมได้บุญ พระได้งาน สานต่อไป
วัดได้ให้ อุโบสถ อย่างงดงาม

เป็นอนุสรณ์ บุญทาน งานยิ่งใหญ่
ประทับใจ ไทยชน คนสยาม
มหกรรม สามคำรบ บรรจบตาม
เป็นความงาม ที่สมส่วน ล้วนสมบูรณ์

ได้เลี้ยงพระ หลายรัฐ หลายประเทศ
ได้น้อมเกศ อำนวย ช่วยอุดหนุน
เป็นเจ้าภาพ หลายอย่าง เส้นทางบุญ
ไว้เป็นทุน- นิธี มีผลงาน

ทั้งพระ,โยม ล้นหลา มาสู่วัด
แพร่สะพัด ความดี ที่ประสาน
เป็นทัสนา นุตตริยะ พระร่วมงาน
สาหัตถิกทาน งานนี้ มีผลจริง

วันเสวย ผลสร้าง งานสุดปลื้ม
คงไม่ลืม งานนี้ ที่สุดหนิง
มาเห็นทาง รวมอรรถ ชัดเจนจริง
นับเป็นสิ่ง ควรสาธุ มุทิตา

สุดจะพร่ำ จำนรรจา หาคำพูด
ให้ครบชุด สมอยาก ยากสรรหา
ด้วยเพราะมี ความจำกัด เรื่องเวลา
อีกภาษา อักขรากลอน ก็ห่อนมี





วันแห่งความรัก

วันที่สิบสี่ กุมภาฯ วันวาเลนไทน์
พระขอให้ คำสอน ป้อนอีกหน
อันความรัก ที่สุกใส ในใจคน
หากไม่หม่น หมองไหม้ ย่อมได้คุณ

จงรักษา ความเปโม ให้โก้หรู
ให้คงอยู่ อย่างเรืองรอง พ้องอุดหนุน
ให้แจ่มใส ให้ชุ่มเย็น เช่นใบบุญ
พร้อมทุ่มทุน อุ่นเจิดจ้า เอื้ออาทร

อันความรัก มีหลากหลาย ให้รู้จัก
เช่นความรัก พุทธศาสน์ ศาสด์คำสอน
ขอชาวพุทธ จงรักษา เอื้ออาทร
ให้สลอน และสลวย ช่วยดูแล

อย่างที่สอง รักพ่อแม่ แน่หนักหนา
จงรักษา น้ำใจท่าน พลันแยแส
อย่าห่างเหิน ท่านทั้งสอง ต้องเท็กแคร์
ต้องดูแล ทั้งกายใจ ให้ท่านดู

อย่างที่สาม รักคุณครู และอาจารย์
ลูกศิษย์นั้น ร่วมกันช่วย ให้สวยหรู
ตั้งใจเรียน เพียรศึกษา เข้าหาครู
และตั้งอยู่ ในคำสอน ยอมพากเพียร

รักเพื่อนฝูง ต้องอำนวย ช่วยเกลอมิตร
รักษาจิต กันและกัน นั้นอย่าเพี้ยน
หากอยู่ช่วง ที่สดใส ในวัยเรียน
จงพากเพียร เร่งศึกษา วิชาการ

จงห่างไกล ยาเสพย์ติด ชีวิตปลอด
สร้างทางรอด ร่วมกัน นั้นอาจหาญ
จงรักษา ชีวิต จิตชื่นบาน
ให้พบพาน สิ่งสวยหรู คู่วัยเยาว์

รักประเทศ ดับเภทภัย ได้สติ
อย่าดำริ แตกสามัคคี ที่อับเฉา
ให้อภัย ตั้งใจทำ หน้าที่เรา
อย่าได้เอา แพ้ชนะ เที่ยวระราน

รักพุทธศาสน์ โอวาทพุทธ พิสุทธิ์ล้ำ
จงเร่งทำ ทานศีล ถิ่นกรรมฐาน
ละความชั่ว ทำดี ให้มีกัน
จะถึงวัน แห่งความรัก ชะงัดแล....


ดูวีดิโอเกี่ยวกับHaiti


ดูสไลต์ ใจสลด ศพเฮติ
ร่างศพปริ ปูนทับ นอนหลับใหล
ตายเกลื่อนกลาด ปราศวิญญ์ สิ้นขาดใจ
ช่างโหดร้าย ปฐพี นี้ทำลง

แผ่นดินเจ้า เขยื้อน เหมือนโกรธหนัก

ตึกที่พัก พังยับ พับผุยผง
ฝากซากปูน ฝุ่นไว้ ให้โลกงง
ฝากพิษสง ความอดอยาก พรากชีวิญญ์

ฝากร่างศพ เกลื่อนกลาด ไม่อาจนับ

นอนตายทับ ถมเทิน เกินถวิล
ต้องใช้รถ ไถถม ให้จมดิน
ฝากไอกลิ่น ซากศพ นอนซบกัน

ฝากเสียงครวญ โหยไห้ อาลัยรัก

ฝากที่พัก กลางดิน ถิ่นโศกศัลย์
ฝากเสียงร้อง อย่างมืดมล ระงมงัน
ฝากความฝัน อันเคว้งคว้าง บนกลางดิน

ทุกหย่อมหญ้า จราจล คนอดอยาก

สุดอนาถ แย่งอาหาร ปานถวิล
น้ำข้าวหมด คนพล่าน อยู่กลางดิน
ชีวิตสิ้น เกิดกรียุค ทุกคนตรม

ธรณี นี้ใย ทำได้ยับ

สุดจะนับ ความวอดวาย ให้สาสม
ชาวเฮติ กลืนน้ำตา คราระทม
สุดจะข่ม ความอาลัย ได้เอ่ยกลอน

ขอวิญญาณ เฮติ ที่จรจาก

ปูนกระชาก ปราศวิญญ์ สิ้นเสื่อหมอน
จงปราศทุกข์ สุขสมหวัง นิรันดร
ขอจบกลอน ย้อนเฮติ เท่านี้เอย

ธรรมะเกี่ยวกับความตาย

"อนิจจา วะตะ สังขารา อุปปาทะวะยะธัมมิโน

อุปปัชชิตะวา นิรุชชันติ เตสัง วูปสโม สุโข"


แปลรวมความว่า

อนิจจา สังขาร ไม่เที่ยงหนอ
มีเกิดก่อ พังยุบ บุบสลาย
ครั้นเกิดแล้ว ไม่จีรัง พังทะลาย
การเข้าไป ดับสังขาร พานสุขจริง
.......................................
อะจิรัง วะตะ ยัง กาโย ปะฐะวิง อะธิเสสะติ
ฉุฑโฑ อะเปตะวิญญาโณ นิรัตถัง วะ กะริงคะรัง

แปลรวมความว่า

ไม่นานหนอ กายนี้ จะนอนนิ่ง
กายจะทิ้ง ตนลงแคร่ นอนแผ่หรา
บนกองซาก กากดิน ถิ่นพสุธา
ปราศวิญญาณ์ ดุจท่อนไม้ ไร้คนมอง
........................................



นิทานธรรม คำกลอน เรื่องพระจักขุบาล
..............................................
มีภิกษุ  รูปหนึ่ง  ซึ่งถือเคร่ง
ได้รีบเร่ง ปฏิบัติ  เป็นหนักหนา
ไม่หลับนอน ตอนปฏิบัติ จิรัตติกาล์ (อ่านว่า จิรัดติกา)
ทำให้ตา บอดสองข้าง  อย่างมืดมล
  
ท่านได้เป็น อรหันต์  พลันตาบอด
เดินตลอด  จงกรมไป  ปลายหน้าฝน
แมลงเม่า   เต็มพื้น  ภูมิดล
เดินบินวน  บนทาง  กลางวนา

ท่านไม่เห็น  แมลงเม่า  ทางเท้านั้น
เหยียบลงพลัน  สนิทใจ ไร้กังขา
แมลงเม่า  ก็ตาย  ใต้บาทา
อนิจจา  หาใช่  ท่านไม่ยล

เวรกรรมไหน เป็นเหตุ ให้เนตรดับ
ติดมากับ  ปัจจุบัน  พลันให้ผล
ในอดีต ท่านเป็นหมอ รักษาคน
กรรมได้ด้น  จากชาตินั้น  พลันติดตาม
  
ในชาตินั้น  ท่านเป็นหมอ รักษาตา
หญิงชรา  กับลูก ทุกข์ล้นหลาม
หญิงชรา  ตาเจ็บ  เล่าเก็บความ
เธอได้ตาม หมอมา รักษาเธอ

หญิงคนนั้น  บอกว่า  หากตาหาย
จะถวาย   ตัวเป็นทาส
  บาทเสมอ
หมอจึงยอม เยียวยา รักษาเธอ
ข้อเสนอ  ของหญิงหนอ  หมอภูมิใจ

ตาของหญิง  เริ่มดี  เห็นสีแสง
เธอก็แกล้ง   พูดปลิ้นปล้อน ก่อนจะหาย
เพราะเธอกลัว  หากตาดี   นี้ต่อไป
จะต้องได้   เป็นทาสหมอ  กันพอดี

จึงโกหก  บอกหมอไป ไม่ไหวแล้ว
ตาเริ่มแจว  มืดดับ  อับแสงสี
หมอได้รู้    ว่าโกหก  ผกวจี
หญิงคนนี้  พูดสับปลับ  ต้องรับกรรม
 
 
หมอจึงแค้น  แกล้งหยอดตา ด้วยยาพิษ
หยอดเพียงนิด  ตาหญิง   ไร้สิ่งห้าม
หญิงคนนั้น   บอดจริง  ยิ่งเป็นกรรม
เที่ยวติดตาม   หมอรักษา  มานานนม

ด้วยวิปาก  รุนแรง ที่แกล้งหญิง
กรรมได้วิ่ง  ติดตามมา ให้สาสม
ถึงบวชพระ  ปฏิบัติ  หัดกมล
กรรมก็ด้น  ตามติด  ประชิดทัน

หากผู้ใด ใครผู้หนึ่ง ซึ่งทำกรรม
วิปากนำ  ตามฆาต ไม่อาจกั้น
ดุจเรื่องนี้  ที่สาธก  ถกเรื่องกรรม
จึงได้นำ  มากล่าว เล่าเป็นกลอน

เป็นสำนวน การถ่ายทอด ผู้ชอบกาพย์
นำให้ทราบ  กรรมจักษุ  อุทาหรณ์
เป็นคติ  สอนใจ  เวไนย์กร
เป็นคำสอน ของจอมปราชญ์ พระศาสดา






นิทาน"ตาบอดคลำช้าง" เวอร์ชั่น คำกลอน โดย..พระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร 

เด็กขอทาน สองคน ขัดสนหนัก 
เป็นเพื่อนรัก ร่วมใจ ได้ประสาน 
เด็กคนหนึ่ง ตาบอดหนอ จะขอทาน 
มาประสาน ให้เพื่อนหม่ำ ทำทุกวัน

อยู่ต่อมา เพื่อนตาบอด จอดหยุดขอ
โรคเกิดก่อ ป่วยกาย ไม่สุขสันต์
เพื่อนตาดี บอกเพื่อนว่า จะขอทาน
จะประสาน จะเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่เอง

เด็กตาดี มีคนให้ ได้อาหาร
เขาให้ทาน เลิศรส อย่างสุดเจ๋ง
เพื่อนตาดี ทำสับปรับ กลับกินเอง
มาบรรเลง บอกขนมดี ที่ตนกิน

เพื่อนตาบอด ได้ฟัง บอกช่างเถิด
รสจะเลิศ อย่างไร ใยถวิล
เจ้าจงบอก ลักษณะ ก่อนจะกิน
ก่อนถึงลิ้น ขนมเด่น เป็นเช่นไร

เพื่อนตาดี บอกขนมดี มีสีขาว
นุ่มสะกาว หวานรส สีสดใส
เพื่อนตาบอด จึงกล่าว ขาวอย่าไร
จงช่วยไข ปัญหา ให้ข้าที

มีวันหนึ่ง เพื่อนตาดี จะชี้ยก
ได้จับนก กะเรียนขาว เพื่อเอาสี
ไม่แชเชือน ให้เพื่อนจับ นับหลายที
บอกว่านี้ สีขาว เจ้ารู้ยัง

เพื่อนตาบอด เอามือลูบ นกกะเรียน
บอกไม่เพื้ยน สีขาวเนียน เหมือนมีหลัง
สิ่งนิ่มนุ่ม คือสีขาว เราชอบจัง
เราสมหวัง เพิ่งรู้สี ที่เจ้ากิน

มีคราวหนึ่ง เพื่อนตาดี มีความติด
ได้พามิตร คิดให้ศึกษ์ นึกถวิล
ได้พาเพื่อน มาคลำช้าง สร้างภาพจินต์
เพื่อนคลำสิ้น ช้างหลายจุด พร้อมพูดจา

คลำที่หาง บอกว่าช้าง เป็นเส้นยาว
คลำที่เท้า เอามือลูบ ทุบที่ขา
บอกว่าช้าง เป็นลำเลา เหมือนเสานา
เพิ่งรู้ว่า ช้างตัวเด่น เช่นนี้เอง





สื่อสมัชชาสงฆ์ไทย
สื่อสมัชชา- สงฆ์ไทย ในอเมริกา 
พัฒนา สง่าหรู สู่youtube
สื่อโครงการ งานเผยแผ่ แท้พิสุทธิ์
ธรรมทูต ในอเมริกา พาเบิกบาน

เป็นโครงการ สื่อธรรม นำเผยแผ่

ทำนองแหล่ เป็นคารมณ์ ผสมผสาน
ทั้งสนุก ธัมมานันท์ อันตระกาน
ธรรมทาน ผลงานนี้ ดีนักแล



โยมเจมส์ลาว เจ้าของ ธรรมส่องโลก

ได้ทำโพสต์ ช่วยพระทำ นำเผยแผ่
เป็นสื่อธรรม สมัชชา ฯ หันมาแล
ดุจดวงแข อาทิตย์ทอง ส่องโลกกา.


โครงการนี้ ดีหนักหนา คารวะ

ได้ช่วยพระ เผยแผ่ธรรม นำศาสนา
สู่จิตใจ พุทธวิเทศ เขตอเมริกา
นำธัมมา ทำนองหลาก ฝากให้โยม..

อีกทั้งมี สื่อสวย ช่วยประกาศ

ยิ่งวิลาศ เกริกไกร ได้สผม
ผสานสื่อ เชื่อมธรรม นำใจชน
โพสต์ไว้บน อินเตอร์เน็ต เพชรไซเบอร์


อยู่ที่ไหน ดูได้ สมใจคิด

ธรรมประชิด เคาะประตู อยู่ไม่เผลอ
ใกล้ชิดธรรม ใกล้ชิดพระ เปิดอ๊ะเจอ
ทั้งคุณเธอ เจอหน้ายิ้ม เพราะอิ่มบุญ.



สมัชชาฯ มหาชาติ เวสสันดร

เป็นสื่อสอน สื่อธรรม นำอุดหนุน
โดยทีมงาน สมัชชาฯ เพื่อหาทุน
มาค้ำจุน ทุนเผยธรรม พระสัมมา.


โครงการนี้ มีเวียนไป อยู่หลายรัฐ

และหลายวัด ที่ประกาศ ปรารถนา
เป็นศูนย์รวม ร่วมโครงการ สมัชชาฯ
เป็นอาภา ส่องเห็น เส้นทางธรรม

อาทิตตปริยายสูตร
อาทิตตะ ปริยายสูตร พระพุทธตรัส
ทรงชี้ชัด เรื่องตา พาให้หมอง
รูปารมณ์ เข้าตา มาตามคลอง
หากจิตข้อง ไม่ระวัง ทุกขังตน

พระองค์ตรัส เปรียบเทียบ เฉียบคมนัก
เอาหลาวปัก  แทงเนตร เล็ดถลน
เจ็บปวดแสน โอดโอยทรุด สุดเหลือทน
ดีกว่าคน ไม่หยุดยั้ง  ระวังตา

เพราะเป็นเหตุ ผลเผ็ดร้อน  ตอนตายได้
ตกอบาย นรกใหญ่ ไร้กังขา
หรือเกิดเป็น ดิรัจฉาน ไร้มารยา
องค์พุทธา ทรงชี้ชัด  จึงตรัสเตือน

พระองค์ตรัส จักขุเช่น เป็นของร้อน
ให้สังวรณ์ ระวังใจ ไม่ฟั่นเฟือน
สติจับ  ประทับวาง ไม่ลางเลือน
พระองค์เตือน ให้รับรู้ ดูเป็นกลาง

อย่าหลงใหล รูปที่พบ ประสบเห็น
วางใจเช่น  สักว่าเห็น เป็นสิ่งว่าง
กำหนดดู  รู้แล้วจบ กำหนดวาง
ไม่สร้างทาง เพื่อติดยึด ประพฤติเบา

ให้พิจารณา สู่ไตรลักษณ์ ประจักษ์แจ้ง
เพิ่มด้วยแรง ปัญญา  ไม่บ้าเขลา
มองให้เห็น เป็นอนิจจัง ดุจดังเงา
ทุกขังเฝ้า  อนัตตาชิด อย่าติดมัน

เพียงแค่นี้ จิตสะอาด สลัดได้
ชนกกรรม  นำไป ให้สุขสันต์
ไม่ตกไป ในอบาย ร้ายอนันต์
จงจำกัน  จักขุนทรีย์ เท่านี้เอย

ส่วนเรื่องหู จมูก ลิ้นกายใจ
ก็จงให้  ระวังหนา อย่านิ่งเฉย
สติดู  รู้เท่าทัน เช่นดังเคย
หากละเลย จะเป็นบ่อน ร้อนดังไฟ

หูจะร้อน จมูกไหม้ กายใจรุ่ม
ดุจไฟสุม กองมหึมา พาร้องไห้
เสียงเข้าหู กลิ่นเข้าจมูก ทุกข์ร่ำไป
ไม่สนใจ  ระวัง  พังลูกเดียว

กายถูกต้อง อ่อนแข็ง แรงผัสสะ
ใจธรรมะ  อธรรมใหญ่ ไม่แลเหลียว
ใจยินดี  ยินร้าย  ไปเพียวเพียว
เจอทางเลี้ยว  สู่นรก ตกอบาย

มองทุกสิ่ง อย่างเข้าใจ ใช้สติ
จะมุตติ พ้นทุกข์  จะสุขใส
จะไม่ร้อน ทางอินทรีย์ ที่เอ่ยไป
จะผ่องใส ทั้งสองโลก ไม่โศกกันต์

...........................

วันมหารำลึก อดีตประธานสมัชาฯ


วันที่เก้า กันยาฯ มหารำลึก
ร่วมน้อมนึก บูชา มหาเถร
ศิษยานุศิษย์ ใกล้ไกล ได้บำเพ็ญ
มาประเคน  กุศลพร้อม น้อมบูชา

ครบหนึ่งปี  ที่หลวงพ่อ อดีตสมัชชา
ท่านจรลา  จากไป  ใจโหยหา
วันที่เจ็ด    ปีกลายโพ้น ต้นกันยา
ในพรรษา  แบบนี้   ที่จากจร

สมัชชาสงฆ์ไทย  ในอเมริกา พาน้อมนึก
มารำลึก  อีกครา  อนุสรณ์
ทำบุญส่ง ถวายท่าน กันอีกตอน
ยังอาวรณ์  ถึงท่าน วันจากไป

เป็นการน้อม บูชา  สักการะ
สัมมานะ อภิวาท นบกราบไหว้
ปูชาระหะ-มหาเถโร โชว์จากใจ
ทำบุญไป  ถวายจบ นบแทนคุณ

วันทำบุญ บูชา มหารำลึก
ขอให้นึก ถึงท่าน วันเกื้อหนุน
ตอนท่านอยู่ ท่านนั้น ยังการุณย์
ให้อบอุ่น ปลุกปลอบ มอบพระธรรม

เป็นเสาหลัก  พระสงฆ์ไทย  ในอเมริกา
รวมคณา   บริหาร   งานเลิศล้ำ
งานพระศาสน์ ในอเมริกา พาน้อมนำ
เผยแผ่ธรรม   อย่างยาวนาน   ที่ผ่านมา

ท้ายสุดนี้ มีธรรมะ จะมาฝาก
เป็นกลอนกาพย์ ฝากไว้ ให้ศึกษา
ให้รำลึก  นึกตาม  สังขารา
ที่โรยรา  พาพราก ที่จากไป

นิจจา สังขาร ไม่เที่ยงหนอ 
มีเกิดก่อ พังยุบ บุบสลาย 
ครั้นเกิดแล้ว ไม่จีรัง พังทะลาย 
การเข้าไป ดับสังขาร พานสุขจริง

หากนึกได้ ทุกวัน กันเช่นนี้
ก็จะมี  นิรทุกข์ สุดจะหนิง
มรณะ- กรรมฐาน งานเอาจริง
จะเป็นสิ่ง ตามปกป้อง คุ้มครองตน

จะเฉกเช่น ธรรมะ  อารักขะ
คำที่พระ  มอบไว้ ให้ฝึกฝน
อีกบทหนึ่ง ซึ่งสำคัญ ให้ท่านยล
เพิ่มฝึกฝน  ให้อีกบท พบธรรมา

ไม่นานหนอ กายนี้ จะนอนนิ่ง 
กายจะทิ้ง ตนลงแคร่ นอนแผ่หรา 
บนกองซาก กากดิน ถิ่นพสุธา 
ปราศวิญญาณ์ ดุจท่อนไม้ ไร้คนมอง

ปัจฉิมะ-คำกลอน ก่อนจะจบ
ขอนอบนบ  ธรรมวินัย วิไลสอง
พร้อมพระพุทธ  พิสุทธิ์ล้ำ งามเรืองรอง
จงปกป้อง  ทุกทุกท่าน ทุกวันเทอญ




หมาเกิดเป็นเทวดา

มีบุรุษ คนหนึ่ง ซึ่งอดอยาก
แสนลำบาก แร้นแค้น แสนขัดสน
ได้พาเมีย พร้อมลูก ทุกข์เหลือทน
หอบกายกล สังขาร เดินทางไกล

จากเมืองหนึ่ง สู่เมืองหนึ่ง ซึ่งไกลโพ้น
สู้อดทน อุ้มลูกน้อย ที่ป่วยไข้
ผลัดกันอุ้ม กับภรรยา มาแต่ไกล
ทั้งเหงื่อไคล ก็ไหลหยด ทั้งหมดแรง

ทั้งแม่พ่อ แรงเือื่อย เมื่อยใจขาด
พ่อเอ่ยปาก ด้วยสำเนียง เสียงแหบแห้ง
ไม่ไหวแล้ว ภรรยา ข้าหมดแรง
ถึงทางแพร่ง ขอจริง ทิ้งลูกกัน

ภรรยา เผลอไผล เดินให้หลัง
สามีนั่ง ทำเป็นเหนื่อย เมื่อยหลับไหล
พร้อมทิ้งลูก ในทางเปลี่ยว เลี้ยวเดินไป
ภรรยา ร่ำไห้ แทบวายปราณ

พ่อแม่ช้ำ จำใจจริง ทิ้งลูกน้อย
ตาละห้อย แทบวายจินต์ สิ้นสังขาร
เดินเข้าสู่ โกสัมพี นี้เกินกาล
ถึงโคบาล ตระกูลหนึ่ง ซึ่งทำบุญ

เจ้าของบ้าน โคบาล นั้นทานข้าว
พร้อมเลี้ยงเจ้า สุนัข ที่รักขุน
ป้อนอาหาร ใส่ปากหนับ รักการุณ
ดูอบอุ่น น่าอิจจา หมาโชคดี

สองสามี ภรรยา อ้าปากมอง
น้ำลายฟ่อง เลยหนา หน้าสดสี
อยากเป็นหมา นายโคปาล์ คงจะดี
จะได้มี อาหารหม่ำ น้ำลายไหล

เจ้าของบ้าน โคบาล สงสารจิต
จึงได้หยิบ อาหาร ที่ทานให้
สองสามี สั่นเทา รับเอาไป
พร้อมกับไหว้ งันงก จกกินกัน

ด้วยหิวหนัก ควักกิน อิ่มเกินขนาด
สามีขาด- ใจปลิด ชีพตักษัย
เสียชีวิต สิ้นลม ลงทันใด
วิญญาณได้ จุติ ที่นั่นเลย

เกิดในท้อง ของหมา เจ้าของบ้าน
นายโคบาล ที่ให้กิน ไม่นิ่งเฉย
เพราะอาศัย จิตเป็นทุน ที่คุ้นเคย
ที่เคยเอ่ย อยากเป็นหมา คราก่อนตาย

ชีวิตคน เกิดเป็นหมา ชะตานี้
เกิดในที่ บ้านใหญ่ ให้อาหาร
เป็นหมารัก ของคนโต นายโคบาล
ผู้ทำทาน เป็นนิจสิน ถิ่นพระมา

นายโคบาล นิมนต์พระ มาประจำ
ทุกเช้าค่ำ ก็ไปวัด ปัฏฐยา
พร้อมกับนำ สุนัข ติดตามมา
พัฒนา ฝึกหัดเขา เฝ้าเอ็นดู

มีวันหนึ่ง เขาใช้ ให้หมารัก
ไปที่วัด นิมนต์พระ สง่าหรู
มันก็ชอบ กระโดดผาง หางไกวชู
แต่เช้าตรู่ นิมนต์พระ มาฉันเพล

มันดึงคาบ งับจีวร เดินก่อนพระ
มุมานะ ดีใจ ทำให้เห็น
พระเห็นมัน แสนรู้ ดูไร้เวร
จึงคิดเล่น ลองเดินเบี่ยง เลี่ยงข้างทาง

ท่านทดลอง อยากดู มันรู้สึก
มันจะนึก ทำอย่างไร เดินไม่ห่าง
หมามันเห็น พระเจ้า ไม่เข้าทาง
มันเห่ากร่าง เข้าทางขึง ดึงจีวร

มันทำอยู่ เช่นนี้ หลายปีดัก
ได้ฟูมฟัก ศรัทธา อนุสรณ์
พระไม่มา เหมือนเดิม เริ่มขาดตอน
จึงเห่าหอน คิดถึง ประหนึ่งคน

มันหงอยเหงา เฉาตาย สิ้นใจขาด
ด้วยอำนาจ เสียงเห่า เฝ้าฝึกฝน
สละเสียง เห่าหอน ตอนทำบุญ
ได้เจือจุน บุญนิธิ ติดตามพลัน

ไปเกิดเป็น เทพบุตร โฆสะกะ
ที่เทวะ นคร บ่อนสวรรค์
เทพติงสะ เสวยผล บุญอนันต์
อยู่สวรรค์ ตราบอายุ อยู่สบาย










จากไทยดีซี สู่พิทส์เบิร์ก

วันที่เก้า  มิถุนา ปีห้าหก
ปีที่ศก  ฝรั่ง  สองพันสิบสาม
ปีชาวพุทธ  ไทยดีซี  ทำดีงาม
ได้จัดงาน   มหาบุญ อบอุ่นจริง

ได้จัดงาน อย่างดี   มีสองส่วน
ซึ่งก็ล้วน    มีคุณ  สุดจะหนิง
นับเป็นปี   มหกรรม นำสุขจริง
เป็นงานยิ่ง  ใหญ่ล้น คนยินดี

หนึ่งเป็นงาน  จัดประชุม  สมัชชาฯ
มีพระมา  มากมาย  จากหลายที่
ทั้งจากไทย  จากต่างประเทศ  เขตผู้ดี
มาครั้งนี้   เพื่อประชุม  กลุ่มพระไทย


 งานที่สอง   ของวัด  จัดใหญ่ยิ่ง
เป็นบุญมิ่ง  ขวัญชาวพุทธ  พิสุทธิ์ใส
งานวันเกิด  หลวงตาชี  ที่เกริกไกร
จัดยิ่งใหญ่  ในวิเทศ   เขตดีซี

งานครั้งนี้ สองส่วน ล้วนเป็นบุญ
ได้ประชุม  พระบริหาร กันหลายที่
ได้เข้าร่วม  สัมมนา  ประจำปี
จัดให้มี การฟังเทศน์  เอนกบุญ

มีการเทศน์ ทั้งไทย และอังกฤษ
เหล่าญาติมิตร  ชาวพุทธ  ได้อุดหนุน
ได้เลี้ยงพระ    เกือบสามร้อย   คอยเกื้อกูล
ได้เพิ่มทุน-  นิธิ  ติดตามตน

มีประชุม วิปัสสนา  สาวหาเหตุ
ตัดบ่วงเลศน์  วิธี ที่ฝึกฝน
หาแนวสอน  ที่เด่น เป็นสากล
เหล่าไทยชน  ปีติ  มีหลายงาน

ทั้งตักบาตร  หลวงตา  บูชาท่าน
เข้าแถวกัน  ทั้งโยมพระ  เฝ้าประสาน
ใส่ดอลล่าร์   ลงในบาตร  องอาจครัน
สวดมนต์กัน  สามเวอร์ชั่น สนั่นเมือง

ทั้งสรงน้ำ หลวงตา สักการะ
สัมมานะ  ยกย่อง  กันนองเนื่อง
กราบซาบซึ้ง ถึงพระคุณ อันรุ่งเรือง
ดีซีเมือง   เลืองอบอุ่น  บุญทวี

ทุกขั้นตอน ของงาน  เก็บผ่านกล้อง
ลำเลียงรอง กันใหญ่ ไร้เทปผี
บันทึกภาพ  วีดิทัศน์ จัดอย่างดี
ในซีดี   มีแจกให้ ไปไว้ดู

ทุกคนมา ร่วมงาน  ปลาบปลื้มล้น
เหล่าไทยชน  ประเทศนอก บอกสวยหรู
จัดได้ดี   น่าภิรมย์  บรมครู
เป็นงานหรู  คู่วัดไทย  ให้ชื่นชม

ผู้แต่งกลอน ออนซอนหลาย ได้จารึก
จดผนึก  เป็นกลอนใจ  ไว้สะสม
เป็นเล็คขอด  ประวัติศาสตร์  ปราชญ์ชื่นชม
เป็นคารมณ์  กวีกาพย์  ปลาบปลื้มใจ
                       
                เสร็จจากงาน หลวงตา  มหาปิยะ
                        เก็บภาระ  เสร็จสรรพ   กลับมาไหว้
                        แล้วนิมนต์  ไปชมวัด   ที่จัดใหม่
                        อยู่ไม่ไกล  จากไทยดีซี  สี่ชั่วโมง

                ได้จัดของ  ขึ้นรถโยม  ข่มความเหนื่อย
                        รถวิ่งเรื่อย  เหมือนจะรู้   สู่ทางโค้ง
                        ออกจากวัด  ไทยดีซี  ตอนสี่โมง
                        รถวิ่งตรง  สู่พิทส์เบิร์ก  ฤกษ์มงคล

                ถึงเพนซิวาเนีย  รัฐดี ที่พิทส์เบิร์ก
                        เป็นสุฤกษ์       สนธยา  ไร้ห่าฝน
                        มีภูเขา              เขียวขจี  นี้ให้ยล
                        มีสายชล         ยาวเหยียด เรียบวนา

                        มีตึกราม  โอ่อ่า   วนาทึบ
                        เป็นป่าลึก  เถาวัลย์ พันกันหนา
                        มีสะพาน   ผ่านตัด ลัดไปมา
                        แนวหินผา   บอกความเก่า  เนินเนาดิน    

                ถึงวัดใหม่  ธรรมรัตน์  วัฒน์วนา
                        วัดหลวงตา  สาขาใหม่   ให้ถวิล
                เป็นตึกสวย  สี่ชั้น  กลางธานิทร์
                        โอบล้อมสิ้น ด้วยภูเขา  ดูเข้ากัน

                        มีเพื่อนบ้าน เรียงราย ใกล้ประชิด
                        ปลูกติดติด  กันหนา  ดุจฝากั้น
                        เป็นวัดใหม่  กลางเมือง  เรืองอนันต์
                        เมืองสวรรค์  นักท่องเที่ยว  เลี้ยวมาชม
                                                                                                                                                                                                                                                     
                        
                          ก่อนจะจบ ขอเล่า กล่าวประวัติ
                        ถึงเรื่องวัด  ธรรมรัตน์   ตัดผสม
                        ความเป็นมา อุปัตติ  มีคารมณ์
                        ขอทุกคน   อ่านปิดท้าย  ได้ใจความ
                         
 

  ประวัติวัดป่าธรรมรัตน์  (คำกลอน)
                                   ประพันธ์โดย
   พระมหาทองสมุทร ธมฺมาทโร พระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๑๒
ในคราวที่ได้มาเยี่ยมวัด  วันที่ ๙-๑๗ มิถุนายน ๒๕๕๖



ชาวไทยในพิทส์เบิร์ก              สุดเลอเลิศเกิดกุศล
น้อมกายถวายตน                      สร้างมงคลบนถิ่นงาม
กราบเรียนหลวงตาชี               พิทส์เบิร์กนี้ดีล้นหลาม
ภูเขาป่าไม้งาม                          ทั้งสายน้ำเย็นฉ่ำใจ

เป็นเมืองที่เก่าแก่                      ภูหินแผ่โอบเป็นสาย
ธุรกิจเหล็กอำไพ                        เป็นเมืองใหญ่ใกล้สายชล
รุ่งเรืองเรื่องกีฬา                        การศึกษาประสบผล
ธุรกิจฟูสกล                             ชาวพุทธชนพอประมาณ

อยากมีวัดเป็นหลัก                  เป็นที่พักจิตวิญญาณ
รักษาศีลกินทาน                      อีกทั้งด้านภาวนา
เผื่อแผ่แก่ชาวพุทธ                   ให้ได้พบศาสนา
ปฏิบัติวิปัสสนา                       สร้างมรรคาพึ่งทางใจ



หลวงตาได้สดับ                      เมตตารับเรื่องนี้ไว้
พร้อมกับมอบทันใด                ส่งเรื่องไปให้ศิษยา
อาจารย์มหาถนัด                     เลขาสมัชช์ได้จัดหา
รับเรื่องหลวงตามา                  พร้อมจัดหาพระให้โยม


วัดนี้อยู่กลางป่า                       ตึกวนากะพังโหม
อาคารตึกทรุดโทรม                ได้ระดมพัฒนา
ตกแต่งภายนอกใน                  สวยสดใสไร้กังขา
ทั้งหมดสี่ชั้นนา                       ชั้นดาษฟ้าเป็นอัมพร

ตรงกลางมีสองชั้น                  แบ่งลดหลั่นเป็นห้องสอน
พุทธอยู่แบ่งเป็นตอน               ที่สงฆ์นอนชั้นบนกลาง
ชั้นแรกที่เดินเข้า                      ชื่อวัดยาวเห็นกระจ่าง
ห้องครัวไปอีกทาง                  ช่วงตรงกลางไว้อบรม

ชั้นล่างห้องใต้ดิน                    ไว้เก็บทุกสิ่งของสั่งสม
ไว้หลี้หนีไฟลม                       ห้องทรุดโทรมกว่าที่ใด
เป็นห้องไว้ซักผ้า                     ทุกวัตถาพาสดใส
อีกทั้งเก็บเครื่องใช้                  ทั้งน้อยใหญ่อันมีค่า


วัดนี้ชื่อมงคล                          ใครได้ยลดีหนักหนา  
ส่องซึ้งถึงหลวงตา                  สื่อธรรมาแก้วแวววาม
หนึ่งในพระไตรรัตน์               แก้วขจัดกิเลสสาม
              “ธรรมรัตน์วัดดีงาม             เชิญติดตามกันเถิดเอย




























   






1 ความคิดเห็น: